สุดระยำ!!! เตรียมล่าตัว 7 ไอ้โหด รุมกระทืบ "ผู้หญิง" 2 คน อย่างป่าเถื่อน หลังมีคลิปโผล่ในโซเชียล อาการเป็นตายเท่ากัน!!! (มีคลิป)

วันนี้ 16 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี่เป็นภาพเหตุการณ์ในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการแชร์ภาพของผู้ที่ใช้นามว่า อธิสันต์ ตันติไพจิตร ได้โพสต์ในเฟซบุ๊คและในไลน์ว่า กันทรลักษ์ติดอันดับเมืองน่าอยู่อันดับที่ 9 ของประเทศไทย แต่จะน่าอยู่มากกว่านี้ ถ้าลากคอไอ้สารเลวพวกนี้เข้าคุกให้หมด

พร้อมกับมีการโพสต์ภาพคลิปเหตุการณ์ที่มีชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งจำนวนประมาณ 7 คน พากันรุมทำร้าย ชกเตะต่อยผู้หญิง 2 คนที่ขับขี่รถยนต์มิตซูบิชิ สีขาว โดยเกิดเหตุที่ด้านหลังตลาดเม่งอุย ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในภาพมีกลุ่มวัยรุ่นได้พากันรุมชกทำร้ายร่างกายผู้หญิงผมสั้นสีทอง ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งผมยาวสีทอง สวมเสื้อสีแดง ซึ่งผู้หญิงสวมเสื้อสีแดงพยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงผมสั้นที่มาด้วยกัน ไม่ให้ถูกทำร้าย แต่ว่าไม่สามารถที่จะช่วยได้ และได้วิ่งหนีกลับเข้าไปในรถ

แต่มีชายคนหนึ่งไม่สวมเสื้อได้วิ่งตามเข้าไปกระชากผู้หญิงเสื้อแดงออกมาจากรถกระเด็นไปด้านข้าง จากนั้นได้ช่วยกันรุมทำร้ายหญิงทั้ง 2 คน โดยขณะที่ผู้หญิงเสื้อแดงกำลังนุ่งคุกเข่าดูอาการของเพื่อนที่มาด้วยกันอยู่นั้น ได้โดนชายคนหนึ่งไม่สวมเสื้อใช้เท้าเตะเข้าไปที่ใบหน้าอย่างแรง จนทำให้ฟุบลงไปกองกับพื้น ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนบอกกลุ่มวัยรุ่นให้หยุดทำร้ายผู้หญิงทั้ง 2 คน และมีการเข้าไปรื้อข้าวของทรัพย์สินภายในรถ โดยมีชายคนหนึ่งได้เก็บสิ่งของลักษณะคล้ายกับโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่องไป แต่ว่าผู้ที่ถ่ายคลิปได้บอกให้เอาไปคืน โดยผู้หญิงทั้ง 2 คน ถูกทำร้ายอาการสาหัสมาก

ทางด้าน พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 เม.ย. 60 โดยบริเวณเกิดเหตุอยู่ถนนด้านหลังตลาดเม่งอุย อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งขณะนี้ตนได้จับกุมคนร้ายในภาพที่รุมทำร้ายผู้หญิง 2 คนได้แล้ว จำนวน 2 คน ส่วนคนร้ายอีกประมาณ 5 คน กำลังเร่งติดตามจับกุมตัว คาดว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็วๆ นี้
จากการตรวจค้นภายในรถเก๋งของผู้หญิงทั้ง 2 คน พบอาวุธปืนสั้นจำนวน 1 กระบอก และยาเสพติดจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้ผู้หญิงทั้ง 2 คนที่ถูกรุมทำร้ายได้ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์รุมทำร้ายร่างกายในครั้งนี้ กำลังสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป